281 Views Report Error
จากการที่ภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ทําให้ทั้งนิยายของไมเคิล คริชตัน ก็ได้มีภาคต่อ และสปีลเบิร์กก็ได้รับงานกํากับภาคต่ออีกเช่นเคยเดิมทีแล้วตั้งแต่ภาคแรกเอง ก็มีส่วนที่ดัดแปลงเนื้อหาจากนิยายอยู่มาก ทั้งในด้านบทบาทตัวละครหรือเหตุการณ์บางอย่าง ที่ก็ยังถือว่าเดินไปในโครงที่คล้ายๆ กันอยู่ซึ่งภาคต่อนี้ ผู้กํากับสปีลเบิร์กเองก็เพิ่มดีกรีของภาพยนตร์ให้เติบโตไปตามอายุของผู้ชมด้วยจากเด็กๆ ที่เคยสนุกสนานและลุ้นระทึกในการผจญภัยภาคแรก ผ่านไป 4 ปี พวกเขาเติบโตมาเป็นวัยรุ่น ก็
ย่อมคาดหวังความระทึกใจยิ่งกว่าเก่า ดังนั้นจึงเรียกได้ว่า จูราสสิกปาร์กภาคต่อนี้ ก็เลือกทางเดินในอีกแบบที่แตกต่างจากเดิมไม่น้อยทีเดียวในภาคแรกนั้น เค้าโครงของภาพยนตร์จะประกอบไปด้วย สาระ การเปิดโลกทัศน์ และการผจญภัย ที่ทำให้ภาพรวมของภาพยนตร์นั้นดูหลากหลายและเปิดกว้างต่อผู้ชมทุก ๆ กลุ่ม แต่ในภาคนี้ ได้เดินหน้าในเส้นทางของภาพยนตร์ผจญภัยระทึกขวัญเต็มรูปแบบ ซึ่งแม้ว่าจะดึงกลุ่มผู้ชมจากภาคแรกได้เกือบทั้งหมด แต่ก็สามารถสัมผัสได้ชัดเจนว่า สิ่งที่พวกเขารับชมนั้นเป็นคนละอารมณ์จากเดิม
4 ปีให้หลังเมื่อจูราสสิคพาร์คถูกทำลาย บนเกาะที่ไม่ห่างไกลนักไดโนเสาร์จำนวนมากสามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างลับๆเและเป็นอิสระ แต่เรื่องร้ายแรงกำลังจะเกิดขี้น มันคือเแผนการโยกย้ายไดโนเสาร์สู่กลางเมืองใหญ่ จอห์น แฮมมอนต์(รับบทโดยริชาร์ด แอทเทนเบอโรห์)ผู้ลงจากตำแหน่งประธานบริษัท InGen พบโอกาสในการไถ่ถอนความผิดเมื่อคราวสร้างความหายนะในจูราสสิค พาร์ค จึงส่งเอียน มัลคอล์ม(เจฟฟ์ โกลด์บลัม)ไปยังเกาะดังกล่าวก่อนกลุ่มคนร้ายจะไปถึง ณ ที่นั้นคนสองกลุ่มเผชิญหน้ากันและร่วมกันผจญกับความหฤโหดของสิ่งมีชีวิตล้านปี เพื่อความอยู่รอดพวกเขาต้องรวมตัวกันเป็นทีมฝ่าอันตราย พวกเขาจะต้องเอาชีวิตรอดและหนีออกจากเกาะแห่งนั้นให้จงได้